ลำดับที่ 1
"คนส่วนใหญ่รวมถึงเด็กๆ จะเปิดใจเข้าใจผู้อื่น
เมื่อได้ทราบถึงความรู้สึกและความต้องการของอีกฝ่าย"
เมื่อพ่อแม่ต้องการให้ลูกๆ ทำอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่ต้องการทำ
บ่อยครั้งที่พ่อแม่จะใช้การบังคับ ซึ่งแม้จะได้ผลในขณะนั้น
แต่การบังคับให้เด็กทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำจะไม่ส่งผลดีทั้งต่อเด็กในระยะสั้น
และไม่เป็นผลดีต่อครอบครัวในระยะยาว
การให้รางวัลหรือลงโทษส่งผลอย่างไร
มีนา แม่คนหนึ่งได้อ่านบทความของฉัน
เธอตั้งคำถามซึ่งชี้ให้เห็นถึงการที่พ่อแม่มักอยากใช้อำนาจที่มีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกๆ
“ ฉันพยายามใช้วิธี –การต่อรอง- กับลูกชายวัย 2 ขวบมานาน
โดยใช้วิธีการให้รางวัลและลงโทษ บางทีมันได้ผลดีทีเดียว
อย่างน้อยฉันก็ทำให้เขาทำตามสิ่งที่ฉันต้องการได้
เช่น ให้เขากินข้าวให้หมดจาน
แต่ฉันยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักกับการใช้วิธีการนี้
ไม่ทราบว่าวิธีให้รางวัลและลงโทษจะก่อให้เกิดปัญหาบ้างหรือไม่
ถ้ามันทำให้เกิดผลตามที่ฉันต้องการได้”
การให้รางวัลหรือลงโทษทำให้เด็กกลัว
เวลาที่ฉันได้ยินพ่อแม่หรือผู้เชี่ยวชาญการดูแลเด็กบอกว่า
การใช้การลงโทษนั้นได้ผลดี ฉันมักจะสงสัยว่าเขาหมายถึงอะไร
ฉันเชื่อว่า คำว่า “ผลดี” หมายความว่าเด็กๆ ยอมทำตามที่พ่อแม่ต้องการ
อย่างน้อยก็ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ทั้งเป้าหมาย (คือการยอมตาม) และวิธีการ (คือรางวัลและการลงโทษ) ต่างมีข้อด้อย
มันไม่เพียงก่อให้เกิดความกลัว ความรู้สึกผิด ความละอายใจ
ถูกบังคับ หรืออยากได้รางวัลเท่านั้น
แต่ยังก่อให้เกิดความโกรธหรือความขัดเคืองใจอีกด้วย
อีกทั้งวิธีให้รางวัลและลงโทษนี้ ยังเป็นแรงจูงใจที่มาจากภายนอก
เมื่อใช้ไปแล้วจะทำให้เด็กพึ่งพิงมัน จนเข้าไม่ถึงแรงจูงใจภายใน
ที่อยากจะทำให้ความต้องการของเขาและผู้อื่นได้รับการตอบสนอง
แรงจูงใจ เป็นสิ่งซึ่งควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ อันเกิดจากความต้องการ
แรงผลักดัน และความปรารถนาที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
ซึ่งอาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือจากการเรียนรู้ แรงจูงใจเกิดจากสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอก
แรงจูงใจภายนอกได้แก่ คำตำหนิหรือคำชม การให้รางวัลหรือลงโทษ
แรงจูงใจภายในคือแรงขับเคลื่อนที่มาจากภายในตัวบุคคล เช่น ความอยากรู้อยากเห็น
การปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม สังคม เป็นต้น
ฉันเชื่อว่าแรงจูงใจภายในที่มีพลังและนำมาซึ่งความสุขที่สุดของมนุษย์คือ
ความปรารถนาที่จะตอบสนองความต้องการของตัวเราและผู้อื่น
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะทำตามแรงจูงใจภายในเช่นนี้ เมื่อเขาสร้างสัมพันธ์กับตัวเอง
และผู้อื่นได้อย่างแท้จริง เมื่อเขารู้ว่าความต้องการของเขาสำคัญสำหรับผู้อื่น
และเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอิสระในการเลือกที่จะทำอะไรเพื่อผู้อื่น
ให้บทเรียนที่มีค่า
ถ้าเราต้องการให้ลูกๆ ของเราสัมผัสได้ถึงแรงจูงใจภายในที่จะทำสิ่งที่เราขอให้เขาทำ
เราสามารถแลกเปลี่ยนจุดยืนจากการใช้อำนาจและบังคับด้วยวินัย
ไปสู่การใส่ใจกับความต้องการในระยะยาวของทุกคน
การทำเช่นนี้อาจใช้เวลามากขึ้น ณ ตอนนี้
เพราะมันหมายความว่าเราจะคิดไปไกลจากปัญหาเฉพาะหน้า
และระลึกไว้ว่าในภาพกว้างแล้ว อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
อย่างไรก็ตาม มันก็คุ้มค่าต่อการลงทุน ในระยะยาวแล้ว
ครอบครัวเราจะสามารถมีความสัมพันธ์ ความไว้ใจ
ความกลมเกลียวกันได้มากขึ้น เด็กๆ จะสามารถเรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตที่ทรงพลังได้
ฉันเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนมากคงเห็นว่าเป้าหมายเหล่านี้น่าสนใจ
และน่าตื่นเต้นมากกว่าแค่อยากให้เด็กๆ ยอมทำตาม
การสื่อสารด้วยหัวใจ ขอเสนอจุดเริ่มต้น 3 ข้อ
ที่สามารถใช้เพื่อเข้าใจผู้อื่นแทนการให้รางวัลหรือลงโทษ นั่นคือ
1. การให้ความเข้าใจผู้อื่น
2. การสื่อสารถึงข้อสังเกต ความรู้สึก ความต้องการ และการขอร้องของเรา
3. สร้างความสัมพันธ์กับตัวเราด้วยการให้ความเข้าใจตัวเอง
...
พบกับรายละเอียดของแต่ละหัวข้อในข้อเขียนต่อไปนะคะ
...